สำนักศิลปวัฒนธรรมและพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี โดย ผศ. ดร.วิฆเนศวร ทะกอง ผู้อำนวยการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและบุคลากร เข้าร่วมการประชุมวิชาการสภาศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ร่วมกับสภาศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 3 - 5 สิงหาคม 2568 ณ อาคารเรียนรวมและศูนย์วัฒนธรรม (ตึกพุทธวิชชาลัย) มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
การประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.วันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดงาน ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการ "5F : วัฒนพลวัตศักยภาพวิถีไทย" (5F : Thai Potential Dynamic Prosperity) ซึ่งมุ่งเน้นการขับเคลื่อนทางวัฒนธรรม โดยมี รศ. ดร.เปรื่อง กิจรัตน์ภร รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร กล่าวต้อนรับและวัตถุประสงค์ของการจัดงาน นอกจากนี้ ยังมีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม เช่น โขน และหุ่นละครเล็ก โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครและนักเรียนในเครือข่าย
การประชุมวิชาการเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้บุคลากรได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์ และองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นให้สอดคล้องกับยุคสมัย และสอดรับกับนโยบายของมหาวิทยาลัย ที่มุ่งเน้นการเป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างสรรค์นวัตกรรม และขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมติดตามกิจกรรมและข่าวสารด้านศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยได้ทางเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของสำนักศิลปวัฒนธรรมฯ
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการมอบรางวัล "ราชภัฏคุณากร" และรางวัล "ภูมิราชภัฏ แก่ผู้มีผลงานโดดเด่นด้านการอนุรักษ์ สืบสาน พัฒนา และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยผู้ที่ได้รับรางวัลของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี รางวัลราชภัฏคุณากร ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุดมลักษณ์ ระพีแสง , รางวัลภูมิราชภัฏ ได้แก่ อาจารย์ชัชวาลย์ มากสินธ์ และ เกียรติบัตรผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการส่งเสริมทำนุบำรุงศิลปะ วัฒนธรรม และความเป็นไทย ได้แก่ นางสาวสุนิสา ตั้งตรกูล
การเข้าร่วมงานครั้งนี้เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีในการอนุรักษ์และพัฒนาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ก้าวไกลสู่ระดับชาติและนานาชาติ โดยมหาวิทยาลัยได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการเป็นแหล่งเรียนรู้คู่การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม
